ผมมักมีเวลาให้แฟนมากกว่าแม่เสมอ ไม่เว้นแม้กระทั่งคุยโทรศัพท์ ผมสามารถทนง้อแฟนได้เป็นชั่วโมง แต่ไม่สามารถฟังคำถามเดิมๆ เช่น ?กินข้าวรึยัง? ?อย่านอนดึกนะ ? จากแม่ได้ ซักนาทีเดียว จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่ผมกำลังคุยกับแฟนเช่นเคย เสียงโทรศัพท์จากแม่ก็ดังแทรกเข้ามาอีกครั้ง ครั้งนี้ผมก็ยังเลือกที่จะคุยกับแฟนสุดที่รักต่อไป เพราะผมรู้ว่าสิ่งที่แม่จะคุยกับผม ก็คงจะเป็นประโยคเดิมๆ เย็นนี้กินข้าวอิ่มไหม วันนี้เรียนเป็นยังไงบ้าง อย่าไปเที่ยวที่ไหนไกลนะ และนั่นก็เป็นโอกาสสุดท้ายที่ผมจะมีโอกาสได้ฟังเสียงของแม่ หลังจากนั้นไม่นาน ญาติของผมโทรมาแจ้งว่า เมื่อคืนนี้ที่บ้านของผมถูกขโมยขึ้น และแม่ของผมขัดขืน จนถูกโจรใช้มีดแทงเข้าที่ท้อง แม่เสียชีวิต เพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว ญาติของผมเล่าว่า ตอนไปพบศพแม่นั้นในมือของแม่กำโทรศัพท์เอาไว้แน่น และเบอร์โทรออกล่าสุดของแม่ไม่ได้โทรไปแจ้งตำรวจ หรือว่าโทรเรียกรถพยาบาล แต่แม่เลือกที่จะโทรหาผม สิ่งสุดท้ายในชีวิตที่แม่เลือกจะทำก็คือ..โทรศัพท์มาหาผม เพื่อฟังเสียงของผม วินาทีนั้น น้ำตาของผมไหลอาบแก้ม พูดอะไรไม่ออก ผู้หญิงคนเดียวในโลกที่คุยกับผมเป็นแรกในชีวิต ผู้หญิงคนเดียวที่ผมสามารถที่จะคุยได้ทุกเวลา โดยที่ผมไม่ต้องเตรียมบทพูดใดๆ ไม่ต้องกังวลว่าเธอจะประทับใจหรือไม่ ไม่ต้องมีมุขไม่ต้องมีคำหวานใดๆ ผู้หญิงคนเดียวในโลก..ที่โทรมาหาผม ที่ฟังผมพูดประโยคเดิมๆ และคนเดียวในโลกที่เลือกคุยกับผมในวินาทีสุดท้ายในชีวิต ในบางครั้ง ประโยคที่ว่า ไม่มีคำว่าสาย หากเราคิดจะแก้ตัวมันก็ไม่เป็นความจริงเสมอไป เพราะบางปรากฎการณ์ในโลก เกิดขึ้นได้แค่ครั้งเดียว เราจะรู้ว่าสิ่งใดสำคัญ ก็ต่อเมื่อเราต้องเสียมันไป ทุกวันนี้ผมนั่งมองโทรศัพท์ รอที่จะตอบคำถามเดิมๆให้กับผู้หญิงคนหนึ่งฟัง แต่ผู้หญิงคนนั้นคงไม่มีอีกแล้ว
|